ตลอดเส้นทางสู่ ถ้ำลุมพินีสวนหิน จังหวัดสระบุรี ความคิดดังกล่าววนเวียนในหัว ไม่รู้จักหยุดหย่อน มันเป็นเช่นนี้ทุกครั้งยามที่พาตัวเองไปเผชิญกับสิ่งใหม่ๆและความท้าทายที่รออยู่เบื้องหน้า และที่สำคัญนี่เป็นครั้งแรก
| การสำรวจถ้ำ หรือการโรยตัว อาจไม่ใช่เรื่องใหม่สำหรับใครบางคน แต่สำหรับ ผ่านแปลงเพาะปลูกของชาวบ้าน ก่อนจะพาเรามาถึงลานกว้างๆ ที่รายล้อมไปด้วยเทือกเขาอันมหึมา ทางธรณีวิทยาบอกได้หรือไม่ว่าสัณฐานและชนิดหินที่ปรากฎ เป็นสิ่งบ่งชี้ของการมีอยู่ของถ้ำ-ฉันไม่รู้ รู้เพียงว่าจุดหมายของเรา อยู่ห่างออกไปไม่ไกล |
และอีกครั้งที่รถจอดนิ่ง พวกเรา 6 ชีวิตก็หอบหิ้วสัมภาระและอุปกรณ์อันจำเป็นเดินขึ้นเขาอีกหลายร้อยเมตรสู่ปากถ้ำ ความร้อนในอากาศภายนอก เทียบไม่ได้เลยกับความเย็นภายในถ้ำที่เรารู้สึกได้ตั้งแต่ก้าวแรกที่ก้าวเข้ามา ถ้ำแห่งนี้มีความยาวถ้ำเกือบ 2 กิโลเมตร สามารถเข้าได้สองทาง ทางแรกคือเข้าทาง | |
| พวกเราเลือกที่จะโรยตัวลงไปจากความสูง 25 เมตร สู่เบื้องล่าง เพื่อเข้าชมประติมากรรมของธรรมชาติ ที่ซ่อนตัวท่ามกลางความมืดมิดอยู่ภายในถ้ำ โดยมีคุณกื๋อส์ผู้โชกโชนในการสำรวจถ้ำ เซ็ทอุปกรณ์ พร้อมกับอธิบายถึงการทำงานของอุปกรณ์แต่ละชิ้นให้ฟัง หมวกกันน็อค อุปกรณ์ต่างๆรอบเอว และถุงมือ ได้รับการตรวจสอบ และถูกสวมใส่บนตัวของนักผจญภัยแต่ละคน ... มันพร้อมที่จะทำหน้าที่ของมันแล้ว |
แล้วเวลาที่รอคอยก็มาถึง.... มีก็แต่ความมืดที่เข้ามาแทนที่ และแล้ว...เมื่อตัวฉันเคว้งอยู่ในอากาศ มีเพียงเชือกเส้นเดียวที่คอยดึงตัวไว้ ฉันเริ่มเข้าใจเหตุผล ที่ทำให้ใครบางคนชอบการเดินทางและการผจญภัยอันท้าทายเช่นนี้แล้ว... | |
| เมื่อทุกคนพาตัวเองมาถึงเบื้องล่างแล้ว เราเดินลึกเข้าไปเพื่อสำรวจถ้ำภายใน บางช่วงเพดานถ้ำสูงและมีพื้นที่กว้าง เหมือนเป็นห้องโถงของถ้ำ บางช่วงเพดานถ้ำกลับต่ำลง และเมื่อสังเกตผ่านความมืดก็จะพบหินงอก หินย้อย ได้ตลอดเส้นทาง ว่ากันว่าถ้ำแห่งนี้ เป็นถ้ำธรรมชาติที่อยู่ในสภาพสมบูรณ์ เหมาะสำหรับการเรียนรู้ของนักสำรวจถ้ำมือใหม่ |
ภายในถ้ำ ยังปรากฎเสาหินขนาดใหญ่ที่เกิดจากการบรรจบกันของหินงอก(ปกติปรากฏบริเวณพื้นถ้ำ) และหินย้อย(ปกติอยู่บนเพดานถ้ำ) ประมาณด้วยสายตาคาดว่าเส้นผ่านศูนย์กลางคงไม่ต่ำกว่า 4 เมตร เมื่อลองให้คนไปยืนข้างๆ ตัวคนก็เล็กลงไปถนัดตา ในความมืด เรามีเพียงแสงไฟจากไฟฉายที่หมวกกันน็อค กับไฟฉายที่พกติดตัวมาด้วยเท่านั้น | |
| สายตาของเราจึงต้องทำงานหนักเพื่อเอาชนะความมืดในถ้ำ แต่ถึงอย่างนั้น การเดินในถ้ำแต่ละก้าวก็ช่างลำบากเหลือเกิน บางคนก็หกล้มได้แผลมา ไม่ต้องพูดถึงบางช่วง บางฤดูที่ต้องลุยน้ำและว่ายน้ำเข้าไป ความยากลำบากย่อมเพิ่มขึ้นโดยไม่อาจเลี่ยง..... แต่ถึงอย่างนั้น ที่นี่ก็ยังมีเสน่ห์ที่คอยดึงดูดให้หลายๆ คนเข้ามาสัมผัสมันด้วยตนเอง |
ข้อมูลเพิ่มเติม "สถานสงเคราะห์คนไร้ที่พึ่งทับกวาง" เลี้ยวขวาตามมทางราดยาง ประมาณ 2 กม. แล้วเลี้ยวซ้ายเข้าทาง ลูกรังอีกประมาณ 9 กิโลเมตร ผ่าน "สำนักสงฆ์เจ้านาคราช" ไปสุดทางที่ "วัดถ้ำพระโพธิสัตว์" ถ้ำนี้เป็น ถ้ำที่มีภาพจำหลักรูปพระโพธิสัตว์ ศิลปะแบบสมัยทวารวดีมีหินงอกหินย้อยบริเวณโดยรอบเป็นแหล่ง ธรรมชาติพันธุ์ไม้ต่างๆ สร้างความรื่นรมย์สวยงาม | |
ขอขอบคุณ
ชาวไฮเปอร์ เวนเจอร์ คุณกื๋อส์ และผู้ร่วมเดินทางทุกท่าน
ยังไม่เคยไปเลยอ่ะ
ตอบลบ